การสอนสระในวิชาภาษาไทยกับกรณีศึกษาที่บกพร่องทางสติปัญญาดาวน์ซินโดรมโดยใช้ ASSURE Model
ก่อนอื่นเราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ Down syndrome ซึ่งเป็นโรคพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม ปัญหาที่สำคัญที่สุดของเด็กเหล่านี้ก็คือ
ภาวะปัญญาอ่อน นอกจากนี้ก็คือโรคหัวใจพิการแต่ กำเนิด และภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง
โดยทั่วไปเด็กกลุ่มอาการดาวน์จะมีใบหน้าและรูปร่างลักษณะที่จำเพาะ แพทย์ พยาบาล สามารถ ให้การวินิจฉัย ได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้อาจสังเกตได้จาก ลักษณะ ของเด็กที่ตัวค่อนข้าง นิ่มหรืออ่อนปวกเปียก การพัฒนาการที่ล่าช้า เช่น นั่งช้า ยืนช้า เดินช้า และพูดช้า เป็นต้น
โดยทั่วไปเด็กกลุ่มอาการดาวน์จะมีใบหน้าและรูปร่างลักษณะที่จำเพาะ แพทย์ พยาบาล สามารถ ให้การวินิจฉัย ได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้อาจสังเกตได้จาก ลักษณะ ของเด็กที่ตัวค่อนข้าง นิ่มหรืออ่อนปวกเปียก การพัฒนาการที่ล่าช้า เช่น นั่งช้า ยืนช้า เดินช้า และพูดช้า เป็นต้น
กรณีศึกษาที่บกพร่องทางสติปัญญา ดาวน์ซินโดรม หรือว่าเด็กหญิงกิ่งแก้ว
(นามสมมุติ) ปัจจุบันศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเรียนร่วม
ลักษณะทั่วไปของเด็กหญิงกิ่งแก้ว คือ
- อาศัยอยู่กับพ่อแม่
- ชอบดูการ์ตูน Frozen ชอบกินซูกัส
- เรียนช้า การเคลื่อนไหวเชื่องช้า
และมีช่วงความสนใจสั้น
- พูดคนเดียว
- ไม่ชอบเรียนเกี่ยวกับวิชาการ
- เขียนตามตัวอักษรได้
แต่ไม่สามารถสะกดได้ด้วยตัวเอง
- ไม่รู้จักสระ 32 ตัว
- เขียนพยัญชนะกลับหัวเป็นบาง ตัว เช่น ภ , ถ , ณ , ด , ต , ค
- ออกเสียงคำยังไม่ชัด เช่น ง งู เป็น ยอ ยู อยู่
จากที่กล่าวมา ทำให้เห็นว่าเด็กหญิงกิ่งแก้ว ยังมีจุดบกพร่องด้านการออกเสียง หรือรวมไปถึงยัง ขาดทักษะวิชาการที่สำคัญหลายวิชา โดยเฉพาะวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นวิชาที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิต ประจำวัน ดังนั้น จึงเป็นกระบวนวิชาที่จะนำมาสอนเพื่อเพิ่มทักษะให้กับเด็กหญิงกิ่งแก้ว ในเรื่องของ สระ เพราะเด็กหญิงกิ่งแก้วยังไม่รู้จักตัวสระทั้ง 32 ตัว จะกำหนดสระมา 6 ตัว ที่เด็กพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน
จากที่กล่าวมา ทำให้เห็นว่าเด็กหญิงกิ่งแก้ว ยังมีจุดบกพร่องด้านการออกเสียง หรือรวมไปถึงยัง ขาดทักษะวิชาการที่สำคัญหลายวิชา โดยเฉพาะวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นวิชาที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิต ประจำวัน ดังนั้น จึงเป็นกระบวนวิชาที่จะนำมาสอนเพื่อเพิ่มทักษะให้กับเด็กหญิงกิ่งแก้ว ในเรื่องของ สระ เพราะเด็กหญิงกิ่งแก้วยังไม่รู้จักตัวสระทั้ง 32 ตัว จะกำหนดสระมา 6 ตัว ที่เด็กพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน
ASSURE Model
A
Analyze
learners = การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน
S
State objectives
= การกำหนดวัตถุประสงค์
S
Select
instructional methods, media, and materials = การเลือก
ดัดแปลงหรือออกแบบสื่อใหม่
U Utilize media
and materials = การใช้สื่อ
R Require
learner participation = การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน
E Evaluate and revise
= การประเมินการใช้สื่อ
ข้อบกพร่องของกรณีศึกษา ไม่รู้จักตัวสระทั้ง 32 ตัว
แต่จะกำหนดสระมา 6 ตัว ที่เด็กพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยใช้
ASSURE Model ในการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม
A
Analyze learners = การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน
การวิเคราะห์ลักษณะของเด็ก
จะทำให้ผู้สอนเข้าใจลักษณะของเด็กและสามารถเลือกใช้สื่อการ เรียนการสอนให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ได้ตั้งไว้
จำเป็นต้องตระหนักถึง
ระดับสติปัญญา ความถนัด รวมไปถึงความสนใจในวิชาภาษาไทยที่เด็กหญิงกิ่งแก้วมีข้อบกพร่องในเรื่องของ
ไม่รู้จักพยัญชนะไทย 32 ตัว
ทั้งนี้เพื่อจะได้ทราบถึงความรู้และประสบการณ์เดิมของเด็ก
ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการจัดเตรียมเนื้อหาและสื่อการสอนที่มีเหมาะสม
และครูผู้สอนจะใช้แบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อเก็บเป็นข้อมูล
และนำมาเปรียบเทียบหลังการสอน เพื่อสังเกตดูความก้าวหน้าของเด็ก
S
State objectives = การกำหนดวัตถุประสงค์
การเรียนการสอน
ในแต่ละครั้งต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน ซึ่งควรเป็นวัตถุประสงค์เชิง พฤติกรรม เพื่อให้สามารถเลือกใช้วิธีการสอนและสื่อการเรียนการสอนได้เหมาะสม
เด็กหญิงกิ่งแก้ว บกพร่องทางสติปัญญา
ดาวน์ซินโดรม
มีข้อบกพร่องในเรื่องของ ไม่รู้จักพยัญชนะไทย 32
ตัว ครูผู้สอนจึงต้องกำหนดวัตถุประสงค์เนื้อหาของบทเรียนที่มีความเหมาะสมกับเด็ก
กล่าวคือ ภายใน 1 เดือน
ครูจะสอนสระ 6 ตัว คือ สระ อะ อา อิ อี อุ อู
ที่พบเห็นบ่อยในชีวิตประจำวัน และให้ฝึกการอ่าน การเขียนซ้ำๆ เพราะเด็กมีช่วงความสนใจสั้น
และ เรียนรู้ได้ช้า
S
Select instructional methods, media, and
materials = การเลือก ดัดแปลงหรือออกแบบสื่อใหม่
การที่จะมีสื่อที่เหมาะสมในการเรียนการสอนนั้น สามารถทำได้ 3 วิธีด้วยกัน คือ
1.
การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้ว
เป็นการพิจารณาเลือกสื่อการเรียนการสอน ที่มีอยู่แล้วจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในการเรียน การสอน
การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้วควรมีเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี้
• ลักษณะผู้เรียน
เด็กหญิงกิ่งแก้วชอบดูการ์ตูน Frozen เรียนช้า การเคลื่อนไหวเชื่องช้า
และมีช่วงความสนใจสั้น ชอบพูดคนเดียว ไม่ชอบเรียนเกี่ยวกับวิชาการ
ดังนั้น
สื่อการเรียนการสอนใช้สื่อบัตรคำ ที่เกี่ยวกับสระ ทั้ง 6
ตัว ที่จะสอน โดยบัตรคำจะมีลักษณะที่ค่อนข้างใหญ่
และเห็นได้ชัดเจน สีที่ใช้จะมุ่งเน้นไปทางสีที่ความสดใส มองดูแล้วสบายตา
ทั้งนี้เพื่อให้เด็กเกิดความรู้สึกสนใจและอยากที่จะเรียนรู้ในเนื้อหา มีการ์ตูน
Frozen ที่ผู้เรียนชื่นชอบเพื่อที่จะสร้างความสนใจในระหว่างเรียน
• วัตถุประสงค์การเรียนการสอน
เพื่อให้เด็กได้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
สระ ต่างๆ ที่พบเห็นบ่อยในชีวิตประจำวัน
• เทคนิคหรือวิธีการเรียนการสอน
ก่อนที่จะเรียนในเนื้อหาที่ครูผู้สอนได้จัดเตรียมไว้
จะมีการเปิดวิดีโอเพลงที่เกี่ยวกับสระ 6 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เพื่อที่จะทำให้เด็กเพลิดเพลินและสนุกสนานกับเนื้อหา
และคิดว่าเรื่องที่จะสอนไม่น่าเบื่อ และไม่ยากอย่างที่คิด
• สภาพการณ์และข้อจำกัดในการใช้สื่อการเรียนการสอนแต่ละชนิด
ข้อจำกัดในการใช้สื่ออาจจะยังไม่น่าสนใจมากพอสำหรับเด็ก
เพราะเด็กหญิงกิ่งแก้วมีความสนใจ ค่อนข้างสั้นกับเนื้อหาวิชาการ และเบื่อง่าย
2.
การปรับปรุง หรือดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้ว
กรณีที่สื่อการเรียนที่มีอยู่แล้วไม่เหมาะสมกับการใช้ในการเรียนการสอน
ในกรณีถ้าใช้บัตรคำ เกี่ยวกับสระทั้ง 6
ตัว แล้วเด็กยังไม่สนใจ ถึงแม้จะมีตัวการ์ตูนที่ชอบก็ตาม
ครูผู้สอนจึงจำเป็นต้องดัดแปลงให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนมากขึ้น
จากที่นั่งนิ่งๆ ดูบัตรคำ
เปลี่ยนเป็นให้วิ่งไปสุ่มจับบัตรคำบนพื้นที่มีลักษณะเหมือนกับบัตรคำของครูที่ถือไว้
พร้อมออกเสียงของสระดังกล่าว เมื่อออกเสียงและจับคู่ได้ถูกต้อง
ครูใช้การเสริมแรงเข้ามาช่วยกระตุ้นให้เด็กสนใจมากขึ้น เช่น (ขนมที่เด็กชอบ) ให้กินซูกัส ชิ้นเล็ก (แบ่งเป็น 6 ส่วนต่อ 1 เม็ด
เพื่อที่จะไม่ให้เด็กอิ่มง่าย)
3.
การออกแบบสื่อใหม่
ในกรณีถ้าใช้บัตรคำ
เกี่ยวกับสระทั้ง 6 ตัวที่นั่งตอบเมื่อครูถา
และวิ่งไปหาสระที่กระจายตามพื้นเพื่อมาจับคู่กับของครูผู้สอน พร้อมออกเสียงของสระดังกล่าว
เมื่อออกเสียงและจับคู่ได้ถูกต้อง ครูจะให้กินขนมที่ชอบ จากที่กล่าวมา
ถ้าไม่สามารถทำให้เด็กเกิดความสนใจได้
ครูผู้สอนจึงจำเป็นต้อง
ใช้สื่อที่ดึงดูด
และใช้เทคนิควิธีการที่สร้างความสนใจต่อเนื้อหาที่มากขึ้น เช่น
อาจจะมีการเล่านิทานที่เกี่ยวกับสระ พร้อมการใช้หุ่นตุ๊กตามือ หรือ Puppets
ที่เป็นสื่อการเรียนการสอนชิ้นใหม่ที่ไม่เหมือนสื่อเดิม
U Utilize media
and materials = การใช้สื่อ
ขั้นตอนการใช้สื่อการเรียนการสอน มีขั้นตอนที่สำคัญอยู่ 4 ขั้นตอน คือ
1. ดูหรืออ่านเนื้อหาในสื่อ / ทดลองใช้
ก่อนนำสื่อการเรียนการสอนใดมาใช้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการตรวจสอบเนื้อหาว่าตรงตาม
วัตถุประสงค์หรือไม่ และทดลองใช้ดูว่ามีปัญหาหรือไม่
ถ้ามีจะได้แก้ไขปรับปรุงได้ทัน และทำให้เด็กรู้สึกไม่เบื่อ
หรือหันไปให้ความสนใจกับส่งอื่นแทน
จากที่กล่าวมาในขั้น
Select instructional methods, media, and
materials การเลือก ดัดแปลง หรือออกแบบสื่อใหม่ ขั้นนี้ครูผู้สอนจำเป็นต้องทำความเข้าใจและ
ทดลองใช้สื่อก่อนที่จะนำมาสอนว่าเกิด ข้อผิดพลาดตรงไหน หรือยังมีส่วนไหนที่ยังไม่สอดคล้องกับเนื้อหาที่จะสอน
เพื่อที่จะนำมาสู่การใช้สื่อการสอนกับเด็กจริงๆ
2. เตรียมสภาพแวดล้อม / จัดเตรียมสถานที่
การที่จะใช้สื่อการเรียนการสอนจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องเรียน เช่น แสง การระบายอากาศ ให้เหมาะสมกับการใช้สื่อการสอนแต่ละชนิด
ในการเตรียมสภาพแวดล้อม
และสถานที่ที่เหมาะสมกับเด็กหญิงกิ่งแก้วจำเป็นต้องใช้พื้นที่ส่วนตัว
และไม่มีสิ่งที่จะหันเหความสนใจของเด็กได้ ทั้งเสียง หรือ กลิ่น เข้ามารบกวน
เพราะเด็กมีช่วงสนใจในการเรียนที่น้อยมาก
3. เตรียมผู้เรียน
ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการใช้สื่อการเรียนการสอนได้ดีนั้น จะต้องมีการเตรียมพร้อมที่จะเรียนเรื่องนั้น โดยการนำเข้าสู่บทเรียนเพื่อเร้าความสนใจ
จากตัวอย่างขั้น Select instructional methods, media, and materials การเลือก ดัดแปลง หรือออกแบบสื่อใหม่ คือ เปิดวิดีโอเพลงที่เกี่ยวกับสระ 6 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู
เพื่อที่จะทำให้เด็กเพลิดเพลินและสนุกสนานกับเนื้อหา และคิดว่าเรื่องที่จะสอนไม่น่าเบื่อ ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เด็กมีเป้าหมายในการฟังหรือดูสิ่งที่ครูผู้สอนนำเสนออันจะนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดีได้
4. การนำเสนอ / ควบคุมชั้นเรียน
ครูผู้สอนจะต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติ หลีกเลี่ยงท่าทางที่ไม่เหมาะสม อย่าใช้เวลาเตรียมสื่อนาน เกินไปจะทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย และนำเสนอให้ถูกวิธีตามที่ได้มีการทดลองใช้มาก่อนแล้ว
รู้จัก แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
รวมไปถึงในการสอนเด็กพิเศษจำเป็นต้องมีความใจเย็น และเข้าใจถึงลักษณะทาง ธรรมชาติของเด็ก
R Require
learner participation = การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน
การใช้สื่อในการเรียนการสอนแต่ละครั้ง ผู้สอนต้องจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กมีส่วน
ร่วมในการเรียนการสอนให้มากที่สุด เช่น
การตอบคำถามเกี่ยวกับสระ ว่าคือตัวอะไรบ้าง หรือเขียนสระ ตามที่ครูบอกได้ เมื่อเด็กมีการตอบสนอง ครูผู้สอนควรให้การเสริมแรงทันที
เช่น การให้คำชมแก่เด็ก เพื่อให้เด็กทราบว่าตนมีความเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ที่ถูกต้องหรือไม่
และให้ทำแบบฝึกหัดในการทดสอบ หลังเรียนเกี่ยวกับสระ ทั้ง 6 ตัวที่สอน จำนวน 20 ข้อ
ซึ่งระดับข้อสอบจะเริ่มจากง่ายไปยาก โดยข้อที่ยาก จะมีกลุ่มคำที่ประสมสระ ทั้ง 6
ตัวเพื่อทดสอบความเข้าใจของเด็ก
E Evaluate and revise
= การประเมินการใช้สื่อ
หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแล้ว จำเป็นต้องมีการประเมินผลกระบวนการเรียนการ สอนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้สอนทราบว่า การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์มากน้อยเพียงใดสิ่งที่ต้อง ประเมินได้แก่
การประเมินผลกระบวนการเรียนการสอน
ซึ่งจะทำให้ครูผู้สอนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาวิธีการสอนและการใช้สื่อการเรียนใน
ครั้งต่อไปให้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับเด็กมากขึ้น
การประเมินสื่อและวิธีการเรียนการสอน
ครูผู้สอนทราบถึงวิธีการสอนและการใช้สื่อของตนเองว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด และสามารถช่วยให้เด็กมีผลสัมฤทธิ์มากขึ้นหรือไม่
และเด็กมีความสนใจสื่อมากน้อยเพียงใด ตัวอย่างของสื่อในการสอนครั้งนี้ คือ บัตรคำ
โดยการประเมินผลสื่อการเรียนการสอนครั้งนี้ควรให้ครอบคลุม ด้านความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนการสอน ด้านคุณภาพของสื่อ เช่น ขนาดของบัตรคำที่เอื้อต่อการมองเห็นของเด็ก
รูปร่างของบัตรคำที่หยิบจับง่าย สีที่ให้ความสบายตาแก่เด็ก ความชัดเจนของสื่อที่เกี่ยวกับสระ เข้าใจง่าย
ไม่ซับซ้อน ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าสื่อและวิธีการสอนที่ใช้ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่
การประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
ครูผู้สอนเห็นถึงพัฒนาการของเด็กว่าเข้าใจเกี่ยวกับสระทั้ง
6 ตัว ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น